รีวิว CU-TEP ฉบับ 2018
- CU-TEP มีข้อสอบ 3 ชุดทั้งหมด คือ Listening 30 ข้อ 30 นาที, Reading 60 ข้อ 70 นาที และ Writing 30 ข้อ 30 นาที สอบตั้งแต่ 8.30 - 11.30 พอหมดเวลา จะทำการเปลี่ยนชุดข้อสอบทันที ดังนั้นหากทำไม่ทัน ก็คือพลาดข้อเหล่านั้นไปเลย เวลาจะให้มากระชั้นมากกกกก ต้องรีบคิด รีบตอบ !
- กติกาการเข้าห้องสอบเหมือนเดิม คือ ชุดสุภาพมาสถานที่ราชการ คอปก (ห้ามเสื้อยืด) กระโปรงคลุมหัวเข่า กางเกงคลุมข้อเท้า (ห้ามกางเกงสี่หรือห้าส่วน) รองเท้ารัดส้นและไม่เห็นนิ้วเท้า (ห้ามรองเท้าที่เป็นพลาสติกสานกันแบบ crog) หากทำผิดกฏ ผู้เข้าสอบจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องสอบโดยเด็ดขาด เอาแต่บัตรประชาชนเข้าห้องสอบ ไม่ต้องเอาดินสอปากกามา และไม่อนุญาตให้เข้าห้องน้ำระหว่างการสอบ อ้อ ตรวจสอบชื่อและนามสกุลให้ตรงตามในบัตร มิฉะนั้นจะไม่ได้เข้าห้องสอบนะ
- หนังสือที่แนะนำมี 2 เล่ม เพราะซื้อแค่นี้
- เล่ม CU-TEP เตรียมสอบ สีชมพู ของ TGRE ราคา 440 บาท ซื้อมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน เนื้อหาเหมือนเดิม ข้อดีคือมีการย่อยประเด็นในแต่ละข้อสอบให้ เช่น บท reading จะแบ่งออกเป็น main topic, inference, matching, ordering, pictorial เป็นต้น มี CD ให้ด้วยแต่ไม่ได้เปิดฟัง มีแบบทดสอบกับตัวอย่างให้ดู แต่ข้อเสียคือ โจทย์มีจำนวนน้อยและง่ายกว่าข้อสอบจริง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเล่มนี้
- เล่ม CU-TEP Anchor สีเขียว เล่มใหม่ ของ TGRE ราคา 420 บาท เล่มนี้ดี มีรวมข้อสอบ 6 ชุดพร้อมเฉลยในตัว ทั้งหมด 600 ข้อ ซึ่งโจทย์มีความท้าทาย เอาไว้ฝึกทำได้ดี คำศัพท์ยากในระดับใช้ได้ และเป็นศัพท์ที่พบบ่อยในข้อสอบ แทบจะไม่ได้อ่าน Listening เลย Writing ข้อสอบมีบางส่วนที่อ่านแล้วงงบ้าง แต่โดยรวมไม่ยากมาก ไม่จำเป็นต้องเข้าใจบทความก็ได้ แค่รู้ว่า Grammar ควรใช้แบบไหนก็พอ ใช้วิธีตัดชอยส์เอา แต่ส่วน Reading ดีมาก เพราะถ้าไปวิเคราะห์คำตอบจะพอเห็นแนวทางว่าโจทย์ควรตอบประมาณนี้ ส่วนตัวคิดว่า Reading มีคะแนนเยอะที่สุด 60 คะแนน (เท่ากับ Listening + Writing) แต่ก็ยากสุด ดังนั้นจึง ควรเก็บคะแนนในส่วนนี้เมื่อโอเคกับ Listening และ Writing แล้ว ต้องอาศัยฝึกอ่านจับใจความเท่านั้น และตะลุยโจทย์เยอะๆ เวลาทำข้อสอบให้อ่านคำถามก่อน แล้วค่อยไปอ่านบทความ เราจะได้รู้ว่าจะต้องโฟกัสที่จุดไหน ส่วนถ้ามีข้อที่ให้คำสีเข้มมาแล้วเลือกคำศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียง ก็ให้ทำข้อนั้นเลยทันที ไม่ต้องรอให้อ่านจบทั้งหมด
- ด้วยความที่หนังสือเล่มหนาและหนัก เลยจัดการสแกนโจทย์ด้วย ipad แล้วแปลงเป็น pdf ซะเลย ก็ทำให้มีเวลาทำโจทย์มากขึ้นเวลาออกไปนอกบ้าน (แต่ไม่ได้เอาไฟล์ไปปล่อยลงอินเตอร์เน็ทนะ)
- วันสุดท้ายก่อนสอบ ไม่ต้องเสียเวลาทำโจทย์ นั่งท่องคำศัพท์ยากๆ ที่น่าจะออกสอบไปเลย และทำความรู้จัก thesaurus ของมัน เพราะ Reading จะออก thesaurus เยอะ และมักออกคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่รู้ว่าจะไปอ่านคำศัพท์ที่ไหน ให้เสิร์ช google "คำศัพท์ใน CU-TEP" เดี๋ยวมันก็ขึ้นมาเอง ถ้าหาไม่เจออีก ก็เสิร์ชพวก "IELTS, SAT" ก็จะได้ฐานคำศัพท์ที่ใกล้เคียงกันพอสมควร
- ในวันที่สอบ ต้องมี "สติ" เพราะเวลาจะน้อยมากกกก ทำแทบไม่ทัน เพราะพอเวลาหมดปุ๊บ เจ้าหน้าที่จะเก็บข้อสอบส่วนโจทย์ทันที Listening กับ Writing ทำได้เฉียดฉิวเวลา ส่วน Reading ทำไม่ทันประมาณ 4-5 ข้อ (กามั่วเลย)
- สรุปว่า ส่วนที่ง่ายสุดคือ Listening --> Writing --> Reading ถ้าให้แนะนำคือ เก็บคะแนนส่วนง่ายก่อน Listening คือแล้วแต่บุคคล ส่วน Writing ก็ฝึกทำโจทย์ ให้จดจำ pattern ประโยคให้ขึ้นใจ และส่วน Reading ก็ต้องฝึกอ่านจับใจความ ท่องจำศัพท์ให้มากขึ้น
Comments
Post a Comment